สวัสดีครับทุกท่านที่กำลังเตรียมตัววางแผนจะไปเที่ยวเขาใหญ่ มีหลายคนเลยครับถามผมมาว่าถ้าจะไปเที่ยวเขาใหญ่นั้นจะต้องมีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมอย่าไรบ้างซึ่งผมเองอกเลยครับว่ามันไม่ยากอย่างที่คิดแต่ในขณะเดียวกันมันเองก็ไม่ได้ง่ายดายเหมือนใจหวังดังนั้นเราจะมาดูกันครับว่าถ้าหากจะไปเที่ยวเขาใหญ่ต้องมีการเตรียมตัวกันอย่างไรบ้าง

สำหรับการเตรียมความพร้อมในการไปเที่ยวเขาใหญ่ที่สำคัญที่สุดประการแรกเลยก็คือเรื่องของที่พักครับซึ่งถ้าหากว่าเราไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับหรือว่าไปแบบแวะเที่ยวระหว่างทางแบบนี้เรื่องของที่พักไม่ใช่เรื่องจำเป็นครับแต่ถ้าหากว่าเราวางแผนจะค้างคืน ส่องสัตว์ ดูดาวแล้วล่ะก็เรื่องของที่พักเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราควรที่จะหาที่พักและคอนเฟิร์มที่พักให้ดีเพราะมีหลายครั้งเลยทีเดียวเชียวครับที่เมื่อจองห้องพักเอาไว้แล้วแต่พอไปถึงกลับไม่มีที่พักให้พักดังนั้นเรื่องที่พักจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ความพร้อมด้านต่อมาก็คือเรื่องของสุขภาพร่างกายครับเพราะเนื่องจากเขาใหญ่นั้นมีสภาพภูมิทัศน์เป็นป่าดังนั้นอากาศของที่นั่นมันจึงเปลี่ยนแปลงได้บ่อย ฉับพลันทันที ดังนั้นจึงควรที่จะเตรียมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น เสื้อกันฝน ร่มกันฝน หรือโลชั่นกันแดดซึ่งแม้ว่าบางทริปอาจจะไม่ได้ใช้แต่ถ้าหากเกิดจำเป็นต้องใช้ขึ้นมาก็สามารถที่จะหยิบมาใช้ป้องกันได้ทันท่วงทีเพียงแค่นี้เราเองก็พร้อมที่จะเที่ยวเขาใหญ่กันแล้ว

สวัสดีค่ะ รีวิวนี้เป็นการรีวิวอย่างต่อเนื่องจากการไปยุโรปของฉัน ฉันเก็บเงินเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปยุโรปให้ได้ และแล้วฝันของฉันก็เป็นจริง ฉันตั้งงบประมาณเอาไว้ต้องไม่เกิน 100,000 บาท เพราะถ้ามากกว่านี้ก็คงไม่ไหว ฉันคำนวณดูแล้วแน่นอนที่สุดว่าถ่าจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม หาอาหารทานเอง บวกกับภาษาอังกฤษที่ไม่เอาไหนเลย คงไม่รอดแน่ ๆ ลองเคาะราคาเล่นเบา ๆ เกินกว่างบที่ตั้งไว้แล้วค่ะ ไม่รีรอเลยฉันตัดสินในไปกับทัวร์ยุโรปทันที แล้วเมื่อได้ไปเที่ยวจริง ๆ ฉันก็รู้ได้เลยว่าคิดไม่ผิดที่ได้เลือกไปทัวร์ยุโรป กับเลิฟทัวร์ฮอลิเดย์ในครั้งนี้

รีวิวนี้เป็นรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวต่อเนื่องนะคะ วันนี้เป็นวันที่สองในการเดินทางค่ะ วันแรกคือวันที่ฉันอยู่ที่สนามบินโดยมีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัททัวร์ยุโรปให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวก เมื่อฉันเดินทางขึ้นเครื่องบิน วันที่สองก็เป็นวันที่ฉันได้เที่ยวแล้วค่ะ
รีวิวนี้ฉันขอพาทุกคนไปรู้จักกับ บันไดเสปน โอ้ว!!! แค่บันได ดียังไง มันไม่ใช่บันไดธรรมดาน่ะสิคะ แต่บันไดสเปน เป็นแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากหลากหลายเชื้อชาติที่เดินทางมาเที่ยวยุโรป ที่บันไดสเปนนี้นะคะฉันเห็นผู้คนมากมายหลากหลายเชื้อชาติ เมื่อมาถึงยุโรป กรุงโรมแล้วทุกคนมักจะไปนั่งทอดสายตาดูผู้คนที่เป็นเหมือนดั่งคลื่นมหาชนที่แห่แหนกันมาเดินเล่น ณ ที่นี่ แล้วที่นี่ดียังไงล่ะ!!! ทำไมคนต้องมาด้วย การเดินเล่นแถวบันไดสเปนนี้มีสิ่งที่แตกต่างจากที่อื่นตรงที่ เป็นย่านที่มีแบรนด์ดังคอยหลอกล่อนักท่องเที่ยวยุโรป ที่มาโดยเฉพาะสาว ๆ นักช็อปที่มักจะควักเงินซื้อของเหล่านี้ นักท่องเที่ยวยุโรปหลายคนบอกว่า บางครั้งการมานั่งที่บันไดสเปนก็ไม่ได้เพียงแค่ไปสอยข้าวของแบรนด์เนมเท่านั้น นักท่องเที่ยวยุโรป แค่ไปนั่งดูผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็รู้สึกว่ามีความสุขแล้ว

ทุกวันนี้ บันไดสเปนทั้ง 138 ขั้น แทบไม่เคยว่างโล่ง ให้เห็นรอยเหยียบเลย แต่กลับเต็มไปด้วยผู้คนที่นั่งจับจองจนแทบไม่เห็นที่ว่างของขั้นบันได

เมื่อพูดถึงเรื่องที่พักบางแสนแล้วต้องบอกครับว่าเป็นเรื่องที่พูดกันไม่รู้จบจริงๆ เพราะบทจะหาที่พักง่ายก็ง่ายเสียจนไม่ต้องทำอะไรแต่บทหาที่พักอยากแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะตระเวนหาที่พักตรงไหนก็ไม่มีห้องว่างเลยแม้แต่เจ้าเดียวเคยสังเกตไหมครับว่าเหตุใดที่พักบางแสนเขาจึงเป็นเช่นนี้ซึ่งผมเองมีคำตอบในเรื่องนี้มาฝากกันครับ

ก่อนที่เราจะรู้ถึงสาเหตุดังกล่าวต้องท้าวความไปยังสมัยก่อนครับโดยในสมัยก่อนนั้นที่พักบางแสนมีน้อยมากเนื่องจากว่าชายหาดบางแสนยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากเท่าที่ควรดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาพักจึงมีไม่มากดังนั้นที่พักบางแสนเวลานั้นจึงยังอยู่ในสภาวะที่พอดีๆ นักท่องเที่ยวที่มาพักก็มีที่พักตลอดเวลา
ต่อมาเมื่อชายหาดบางแสนไดรับการโปรโมทจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในระดับประเทศและระดับโลกทำให้นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศต่างแห่กันเข้ามาท่องเที่ยวบางแสนกันมากมายในคราวเดียวกันทำให้ที่พักมีไม่พอดังนั้นคนแถวนั้นจึงเริ่มสร้างที่พักให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวได้มาพักอันเป็นการสร้างรายได้ซึ่งในการสร้างที่พักนั้นก็สร้างกันในเวลาไล่เลี่ยกันนั่นแหละครับแต่เนื่องจากว่าสถานที่แห่งนี้ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดลมไปแล้วดังนั้นจึงมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันตลอดทั้งปีในขณะที่พื้นที่สร้างที่พักนั้นก็มีจำกัดจึงทำให้เกิดสถานการณ์ดังที่เห็นนี่แหละครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าร้อนแล้วไม่ต้องไปคิดหาที่พักแบบไปตายเอาดาบหน้าครับเพราะไม่มีที่ให้พักอย่างแน่นอน

ถ้าเอ่ยถึง เจ้าสัตว์เท้าใหญ่ มีกระเป๋าหน้าท้อง กระโดดไปมา หน้าตาคล้ายกระต่าย เชื่อได้ว่าทุกคนคงจะนึก จิงโจ้อย่างแน่นอน และสิ่งที่ตามมาหากเราพูดถึงกระต่ายยักษ์ตัวนี้ ก็อีกนั้นแหละที่เราจะนึกถึงประเทศต้นกำเนิดของพวกมัน ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งประเทศที่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ห่างจากประเทศไทยไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 7,000 กิโลเมตร

คงมีหลายๆ คนที่อยากใกล้ชิดเจ้าสัตว์ขนนุ่มเหล่านี้ ซึ่งที่ประเทศออสเตรเลียมีเกาะที่ชื่อว่า เกาะแกงการู (Kangaroo Island) เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 อยู่ทางตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย ถึงแม้ว่าจะเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่แต่มีประชากรเพียง 4,000 คนเท่านั้น เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นอุทยานที่สำคัญ และถูกรักษาไว้อย่างดี การไปทัวร์ออสเตรเลียที่นี่ไม่ใช่เรื่องยากเท่าใดนัก เพราะเกาะนี้ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมและสัมผัสเจ้าจิงโจ้อย่างใกล้ชิด จะกอด จะหอมหรือขยำพุง แบบเจ้าแมวน้อยที่บ้านก็ยังได้ และบนเกาะนี้ก็ยังมี โคอาล่า (ตัวเป็นๆ ไม่ใช่ขนมช็อคโกแลตแน่นอน) อีกทั้งยังมีตัว วอลลาบี หรือจิงโจ้แคระ ให้เราได้ถ่ายรูปกับมันอีกด้วย และการทัวร์ออสเตรเลียที่เกาะแกงการูก็ไม่ได้มีเพียงสัตว์บกเท่านั้น ยังมีแมวน้ำ ตัวอ้วนนอนเกยอยู่ชายหาดเป็นร้อยๆ ตัว ให้เราได้ยลโฉม ความตุ้ยนุ้ยน่ารัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความสมดุลของธรรมชาติ เราจึงไม่อาจเข้าใกล้พวกมันได้ เกาะแกงการูมีขนาดใหญ่ซึ่งเราไม่อาจใช้เวลาวันเดียวเที่ยวทุกแห่งบนเกาะได้ จึงมีโรงแรมให้พักอาศัย จากนั้นเราอาจไปเยี่ยมชมชนเผ่าดั้งเดิมของชาวออสเตรเลีย ก็คือ ชนเผ่าอะบอริจิน
การทัวร์ออสเตรเลียที่เกาะแกงการูที่ดีที่สุดคือการนั่งรสบัส ไปตามสถานที่นั้นๆ เพราะแน่นอนเราไม่สามารถเดินทัวร์ไปสถานที่แต่ละแห่งได้ ไม่เช่นนั้นเราอาจขาลากกันได้เลยทีเดียว เมื่อเราไปทัวร์ออสเตรเลียก็อย่าลืมที่จะเลือกเกาะแกงการูให้อยู่ในแผนการของเราด้วยแล้วกัน ไม่เช่นนั้นเราอาจจะไม่ได้กอดเจ้าจิงโจ้ตัวนุ่มๆ ตัวนี้